เพราะอะไร "ล้อแบบตีนตะขาบ" ถึงได้เปรียบ

เพราะอะไร ล้อแบบสายพาน ถึงได้เปรียบ

ในงานที่มีสภาพพื้นเป็นดินลื่น โคลน ชัน หรือพื้นที่ที่ไม่แข็งแรง เช่น พื้นที่ปลูกหญ้า หรือพื้นที่ต้องการไม่ให้พื้นช้ำ ล้อธรรมดา (ล้อกลม) มักเจอปัญหาได้แก่:

• ล้อกลมมีหน้าสัมผัสกับพื้นน้อยกว่าสายพาน ส่งผลให้แรงกดต่อตารางนิ้วสูงกว่า พื้นอ่อนง่าย เกิดการขุดทะลุ เป็นร่อง หรือจมลง
• เมื่อล้อหมุนฟรี (ลื่น) อาจขุดทางให้ลึกขึ้น ทำให้สำหรับเที่ยวต่อๆ ไป ยากขึ้น
• ในทางชัน หรือพื้นลื่น ล้อกลมอาจเสียการทรงตัว หรือหมุนฟรี แล้วเคลื่อนที่ไม่ได้

ขณะที่ล้อแบบสายพานมีข้อดีหลักๆ ได้แก่:

• หน้าสัมผัสกับพื้นมากกว่า (เพราะสายพานยาวกว่าวงล้อ และกระจายน้ำหนักได้กว้างกว่า) แรงกดต่อตารางนิ้วต่ำกว่า โอกาสจม/ขุดร่องต่ำกว่า
• แรงลาก/การยึดเกาะ ดีกว่าในพื้นที่อ่อน หรือ ลื่น สามารถขึ้นชัน หรือผ่านโคลนได้ดีขึ้น
• การกระจายน้ำหนักทำให้พื้นเสียหายน้อยกว่า เช่น พื้นหญ้า พื้นที่ปลูกต้นไม้ เพราะไม่เกิดจุดกดลงลึกเพียงจุดเดียว

ดังนั้น ในกรณีที่งานของคุณคือ ขนส่งของหนัก บนพื้นที่อาจ ชื้น โคลน หรือพื้นอ่อน และต้องการรักษาสภาพพื้นให้ไม่เป็นหลุมเป็นบ่อ การใช้รถโครงสร้างแบบ ล้อสายพาน ถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่า ล้อกลมมาก

ดังนั้น เมื่อต้องทำงานบนพื้นที่ไม่มั่นคง เช่น โคลน พื้นปลูกหญ้า หรือพื้นที่ที่ต้องการหลีกเลี่ยงการทำลายพื้น การเลือก รถบรรทุก หรือ รถดั้ม ที่ใช้ล้อตีนตะขาบ มีข้อได้เปรียบอย่างชัดเจน

เนื่องจาก ล้อสายพาน มีหน้าสัมผัสกับพื้นมากกว่า แจกจ่ายน้ำหนักได้กว้างกว่า แรงกดต่อตารางหน่วย ลดลง พื้นไม่จม/ไม่ขุดร่องลึก สามารถเดินทางได้ในพื้นที่ลื่น หรือชัน ได้ดีขึ้น

ขณะที่ ล้อกลม อาจทำให้พื้นเสียหาย เป็นหลุมเป็นบ่อ หรือผิวทางถูกขุด เมื่อใช้งานบนพื้นอ่อนหรือโคลน และล้อหมุนฟรีอาจยิ่งเพิ่มช่องทางให้รถเที่ยวต่อๆ ไป ลำบาก

ดังนั้น หากคุณต้องการ ยก / ขนส่งของหนักเข้าไปในพื้นที่ปลูกหญ้า หรือพื้นที่อ่อน โดยไม่ทำให้พื้นเสียหาย การเลือก รถบรรทุกตีนตะขาบ คือทางเลือกที่เหมาะสมและถือว่ารองรับงานลักษณะนี้ได้ดีมาก